บริการ ถมดิน

บริการ "ถมดิน" ของ บริษัท ดี.ที.คอนกรีต จำกัด

ปัจจุบันบริษัท ดี.ที.คอนกรีต จำกัด ได้จำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างหลากหลายชนิด เช่น เสาเข็ม(ฐานราก) แผ่นพื้น คอนกรีต และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน มอก. และได้รับการรับรองคุณภาพจากบริษัท SCG และนอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามา เช่น บริการถมที่ดิน หรือบริการตอกเสาเข็ม เป็นต้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้บริษัทเป็นร้านวัสดุก่อสร้างที่มีสินค้าและบริการครบวงจรสำหรับผู้รับเหมา และลูกค้าที่ต้องการจะสร้างสิ่งปลูกสร้าง โดยเริ่มได้ตั้งแต่การถมดิน เชียงราย ไปจนถึงการก่อสร้างโครงสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าทุกๆท่าน

ข้อมูลพื้นฐาน

- รับถมที่ดิน ถมดิน ทั่วจังหวัดเชียงราย พาน พะเยา
- มีทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปให้คำแนะนำ และเข้าดูหน้างานจริง
- คัดสรรดินถมคุณภาพดีจากแหล่งที่เหมาะสม
- บริการถมดิน พร้อมบดอด ทั่วเชียงราย ให้ดินที่ถูกถมเน้นและแข็งแรง
- มีดินหลากหลายประเภทให้เลือก ตามวัตถุประสงค์ในการถมที่ดิน เช่น ดินดาน / ดินทราย / ดินลูกรัง / ดินเหนียว / ดินประเภทหน้าดิน

"ถมดิน" ขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบในการ

1. วิเคราะห์สภาพหน้างานก่อนการเริ่มถมดิน

• การเปรียบเทียบความสูงของที่ดิน กับความสูงของพื้นรอบๆข้าง : ก่อนที่จะเริ่มถมดิน สามารถเริ่มจากการที่เจ้าของที่ดินเช็กระดับพื้นดินบริเวณรอบๆข้างเคียง ซึ่งความสูงที่จะทำการถมมักจะถมให้ความสูงไม่เกิน 50 เซนติเมตร หรือถมเท่ากับบริเวณบ้านข้างเคียง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำไหลไปท่วมพื้นที่บริเวณบ้านข้างเคียง และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแรงดันของมวลดินจากที่ดินของเราที่ถมสูงกว่าไปดันรั้วบ้านข้างเคียงเสียหาย นอกจากนี้ในกรณีที่เป็นพื้นที่ที่ติดกับถนนส่วนมากจะทำการถมดินให้สูงกว่าถนนประมาณ 50 – 80 เซนติเมตร
• ตรวจสอบปัญหาเรื่องการระบายน้ำ และปัญหาน้ำท่วม : เจ้าของที่ดินจำเป็นจะต้องทราบข้อมูลในส่วนของประวัติการเกิดอุทกภัยในบริเวณพื้นที่นั้นๆ เช่น บริเวณพื้นที่นั้นมีประวัติน้ำท่วมรึเปล่า ท่วมสูงระดับไหน เกิดขึ้นบ่อยหรือไม่ ท่วมทุกครั้งที่มีฝนตกหนักและต่อเนื่องเลยหรือไม่ ใช้เวลาระบายน้ำนานแค่ไหน เป็นต้น เพื่อเช็กระดับสูงสุดที่น้ำเคยท่วมถึง เพราะปัญหาดังกล่าวเหล่านี้จะนำมาใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการกำหนดความสูงของการถมที่ดินและจะช่วยให้เจ้าของที่ดินวางแผนงานได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมบ่อยครั้งก็จะส่งผลให้ดินเกิดการอ่อนตัวได้ง่าย ซึ่งจำเป็นจะต้องถมแล้วอัดให้แน่นกว่าปกติ และใช้เวลาเซตตัวของดินหลังจากการถมให้นานมากยิ่งขึ้น(ปกติทั่วไปใช้เวลา 6 เดือน) ก่อนที่จะมีการเริ่มลงสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่น ก่อนที่จะมีการถมดิน ในโซนจังหวัดเชียงราย พาน พะเยา ก็ควรทราบข้อมูลมูลเรื่องประวัติการเกิดอุทกภัยในบริเวณพื้นที่นั้นๆก่อน
•  การถมดินสำหรับพื้นที่บ่อ หรือบึง : สำหรับเจ้าของที่ดินที่ต้องการถมดินในบริเวณที่เป็นบ่อ หรือบึงอยู่นั้น ง่ายในการที่จะเกิดปัญหาทรุดตัวของพื้นที่ในภายหลัง เพราะดินที่เคยเป็นพื้นที่บ่อ หรือบึงมาก่อนจะมีลักษณะค่อนข้างอ่อนตัว จำเป็นจะต้องถมแล้วอัดให้แน่นกว่าปกติ และใช้เวลาเซตตัวของดินหลังจากการถมให้นานมากขึ้นก่อนที่จะมีการเริ่มลงสิ่งปลูกสร้างต่างๆ 

2. เข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถมดิน และขุดดิน

•  กรณีการถมที่ดินสูงกว่าพื้นที่ใกล้เคียง : หากจะทำการถมดินโดยมีความสูงของเนินดินเกินกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ใกล้เคียง และมีพื้นที่ของเนินดินไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องจัดให้มีการระบายน้ำเพียงพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ข้างเคียง

3. เลือกประเภทของดินที่จะนำมาถม

ในส่วนของการเลือกใช้ดินสำหรับนำมาถมที่นั้น การถมดิน เชียงราย ควรมีการเลือกใช้ดินธรรมชาติ ไม่ควรเลือกใช้ดินที่มีการผสมเศษอิฐ หรือเศษหิน เพราะอาจส่งปัญหาต่อเสาเข็มได้ในช่วงการตอกเสาเข็มลงไปในดิน ทำให้เสาเข็มเยื้องศูนย์ หรือแตกหักได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อโครงสร้างสิ่งปลูกสร้างด้านบนได้ในอนาคต และนอกจากนี้เจ้าของที่ดินควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ด้วยว่าหลังจากมีการถมดินเสร็จจะมีการก่อสร้างหรือทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อที่จะสามารถเลือกประเภทของดินได้เหมาะสมกับแผนที่วางไว้

1. ดินดาน : เป็นดินที่มีลักษณะแห้ง นิยมมาใช้เมื่อมีความต้องการปลูกสร้างหลังถมดิน ปรับหน้าดินเสร็จทันที บดอัดได้ดี เหมาะสำหรับการใช้ถมทำพื้นที่ถนน หรือที่ดินที่อยู่บริเวณริมน้ำ ซึ่งเป็นประเภทของดินที่นิยมใช้ถมที่ดิน ในเชียงราย พาน พะเยา และจังหวัดต่างๆในภาคเหนือ 
2. ดินทราย : เป็นดินที่จำเป็นต้องใช้การบดอัดให้แน่น เนื่องจากดินทรายจะประกอบด้วยทรายไม่น้อยกว่า 70% เกิดการกัดกร่อนได้ง่าย และไม่อุ้มน้ำ หากอัดไม่เน่น อาจเกิดปัญหาดินทรุดตัว และไหลออกบริเวณข้างเคียง ส่วนสาเหตุที่มีคนเลือกใช้ดินทรายในการถมที่ ก็เพราะเป็นดินที่ใช้ต้นทุนต่ำ ราคาถูกซึ่งมักใช้กันในโครงการจัดสรร
3. ดินลูกรัง : เป็นดินที่ค่อนข้างแข็ง ยิ่งตอนเป็นดินที่แห้งจะยิ่งแข็ง มีสีน้ำตางหรือแดง เหมาะสำหรับใช้ถมทำถนนคอนกรีต เพราะบดให้อัดแน่นได้ดี แต่เป็นดินที่ไม่เหมาะกับการใช้ปลูกต้นไม้ เนื่องจากแห้งเกินไป
4. ดินเหนียว : เป็นดินที่มีเนื้อละเอียด สามารถอุ้มน้ำได้ดี หาง่าย ต้นทุนไม่สูง ดินชนิดนี้เป็นที่นิยมในการใช้ถมที่ ในบริเวณกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
5. ดินประเภทหน้าดิน : ก็คือเป็นดินที่อยู่บริเวณพื้นผิวดินด้านบน มีสีดำ ระดับตั้งแต่ 0.00-0.50 เมตร หรืออาจลึกกว่านี้เล็กน้อย เป็นดินที่เหมาะกับการใช้ปลูกต้นไม้ เนื่องจากมีแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับพืช ทำให้ดินประเภทนี้มีต้นทุนสูงกว่าดินประเภทอื่น

4. ประเมินราคาการถมที่ดิน (วิธีการคำนวณ)

สำหรับเจ้าของที่ดินที่ต้องการจะถมดินในพื้นที่ของตนเองนั้น ถ้าทราบพื้นที่ที่จะถมดิน และทราบความสูงที่ต้องการจะถมแล้ว สามารถที่จะประเมินราคาด้วยตัวเองก่อนได้ ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนมากบริษัทถมดินบางรายจะคิดราคาเป็นคันรถ บางรายจะคิดราคาเป็นคิว และอาจจะคิดราคาเหมารวมหรือแยกกับค่าบดอัดไปด้วย ซึ่งสำหรับวิธีประเมินค่าใช้จ่ายคร่าวๆแบบคิดราคาเป็นคิวนั้นสามารถทำได้ดังตัวอย่างนี้
เช่น เจ้าของที่ดินมีที่ดินอยู่ 1 ไร่ ต้องการจะถมดิน ในจังหวัดเชียงรายให้สูง 1 เมตร
- ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ = 400 ตารางวา = 1,600 ตารางเมตร (จำเป็นจะต้องเปลี่ยนให้หน่วยเป็นเมตรก่อนเสมอ)
- ความสูงที่จะถมดิน = 1 เมตร
- ดังนั้น ปริมาณที่ใช้ในการถมดิน(คิว) = 1,600 ตารางเมตร * 1 เมตร = 1,600 คิว
- เผื่อค่าบดอัดดินที่จะยุบตัวลงไปด้วยประมาณ 30% ของปริมาณที่ใช้ในการถมดิน(คิว) = 1,600 คิว * 30% = 480 คิว
- ปริมาณที่จะนำดินมาถม = 1,600 คิว + 480 คิว = 2,080 คิว
- ราคาประเมินคร่าวๆ = 2,080 * (ราคาดินต่อ 1 คิว)

ข้อควรทราบหลังจากทำการถมดิน

หลังจากมีการถมจนเสร็จแล้วนั้น ก็จะเป็นเรื่องของการทิ้งระยะเวลารอดินเซตตัวหลังจากการถมดิน โดยปกติเมื่อถมดินเสร็จหากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรเริ่มก่อสร้างทันที ควรทิ้งระยะเวลาให้ดินเซตตัวก่อน ยิ่งถมสูงยิ่งมีโอกาสทรุดตัว บางที่จะทิ้งระยะเวลาไว้กว่า 6-12 เดือน แต่ก็สามารถร่นระยะเวลาได้โดยการใช้รถบดอัดดินช่วย หรือทำทั้งสองอย่างคือทั้งใช้รถบดอัดดินและทิ้งระยะเวลารอดินเซตตัว ยิ่งจะทำให้การปรับหน้าดินก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางบริษัท ดี.ที.คอนกรีต จำกัด มีบริการครบต้องแต่ขั้นตอนการเข้าดูหน้างาน ถมดิน ในบริเวณเชียงราย พาน พะเยา พร้อมบริการบดอดดินหลังจากการถมเสร็จ 

การป้องกันพื้นที่ขอบของที่ดินที่มีการถมไม่ให้เกิดปัญหาดินสไลด์

โดยส่วนมากแล้วสำหรับหน้างานที่มีการถมดินในจังหวัดเชียงราย พาน พะเยา หรือจังหวัดอื่นๆก็ตาม หลังจากการถมดินมักจะทำให้เกิดพื้นที่ต่างระดับกับบริเวณรอบๆ(มักจะสูงกว่าบริเวณรอบๆ) ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาการเคลื่อนพังทลายของดินเนื่องจากเวลาที่มวลของดินอยู่ต่างระดับกัน ก็มักจะเกิดปัญหาที่ดินในระดับที่สูงกว่าเกิดพังลงมา ในกรณีไม่มีดิน หรือพื้นที่คอยต้านแรงค้ำด้านข้างไว้ หรือเกิดปัญหาปัญหาดินสไลด์ ปัญหานี้จะยิ่งเกิดง่ายมากขึ้น ในกรณีที่เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ หรือติดกับทางน้ำ เพราะสภาพของดินจะมีลักษณะค่อนข้างอ่อน โดยเกิดจากการซึม และกัดเซาะของน้ำที่ไหลผ่าน ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาดินสไลด์ได้ง่ายกว่าพื้นที่ต่างระดับที่อยู่ห่างจากทางน้ำ ซึ่งถ้าทิ้งไว้มีโอกาสที่สิ่งปลูกสร้างภายอาจเกิดความเสียหายได้ในอนาคต ดังนั้นสิ่งที่จะมาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้จะแนะนำเป็นการทำ “กำแพงกันดิน” เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับขอบของที่ดินที่มีการถมไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมการทำและประโยชน์ของ “กำแพงกันดิน” 

สินค้าแนะนำ

กำแพงกันดิน (Retaining Wall) ถือเป็นรูปแบบโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบให้มีความทนทานมากเป็นพิเศษ โดยสร้างขึ้นเพื่อต้านทานแรงดันทางด้านข้างของมวลดิน หรือ ของไหล
โดยรั้วสำเร็จรูปเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับช่างผู้รับเหมา และ เจ้าของบ้าน โดยจะเป็นรั้วบ้านที่ถูกหล่อสำเร็จตั้งแต่ในโรงงาน

คือการที่ใช้รถปั้นจั่นตอกเสาเข็มคอนกรีตลงไปในดินหรือพื้นของสิ่งปลูกสร้างจนได้ความลึกที่ต้องการ(Blow Count) เป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย